การใช้ฟองน้ำ หินขัด หรือใยบวบ ขัดผิวบริเวณที่มีเซลลูไลท์ ทุกครั้งเวลาอาบน้ำ โดยขัดผิวประมาณ 3 นาที ก็สามารถขจัดเซลลูไลท์ได้ เพราะการขัดผิวมีส่วนทำให้ระบบต่อมน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดี เนื่องจากความร้อนจากการขัดถูนั้น ทำให้ไขมันเกิดการแตกตัว และยังกระตุ้นการเผาผลาญไขมันที่ใต้ชั้นผิวอีกด้วย

2.ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
การทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และเน้นการทานที่หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน โดยที่ไม่ขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งไปนั้น ก็มีส่วนช่วยบอกลาเซลลูไลท์ในคุณแม่ตั้งครรภ์และหลังคลอดได้เช่นกัน อีกทั้งยังควรให้ความสำคัญกับการควบคุมอาหาร โดยการลดปริมาณอาหารจำพวกแป้ง ไขมัน และน้ำตาล พร้อมทั้งเพิ่มการทานผักผลไม้ให้มาก เนื่องจากมีกากใยที่มีส่วนช่วยขับล้างสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย อีกทั้งวิตามินซีและวิตามินอีที่ได้จากการทานผักผลไม้นั้น ยังช่วยให้ผิวกระชับมากยิ่งขึ้น

3.หมั่นออกกำลังกายด้วยวิธีเบาๆ
คุณแม่ตั้งครรภ์และหลังคลอดก็สามารถออกกำลังกายเพื่อกำจัดเซลลูไลท์ได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องใช้วิธีการออกกำลังกายแบบเบาๆ ซึ่งแนะนำให้ใช้วิธีการเดินวันละ 30 นาที เพราะวิธีนี้ช่วยทำให้มวลกล้ามเนื้อมีความแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยดึงไขมันที่สะสมอยู่มาเป็นพลังงาน และยังช่วยให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น

4.ลุกขึ้นเดินบ่อยๆ
คุณแม่ตั้งครรภ์และหลังคลอดมักจะนั่งหรือนอนบ่อยๆ เนื่องจากร่างกายอ่อนล้า แต่พฤติกรรมเช่นนี้อาจทำให้เกิดการสะสมของเซลลูไลท์ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรหมั่นสังเกตรูปร่างของตัวเองให้ดีว่าผิวหนังมีความเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ผิวขรุขระและไม่เรียบเนียนหรือเปล่า หากเริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของผิว ควรหมั่นลุกขึ้นเดินบ่อยๆ อย่างน้อยหลังอาหารก็ควรเดินให้ได้ประมาณ 15 นาที จะช่วยลดโอกาสการเกิดเซลลูไลท์ได้

5.นวด
ในส่วนของการนวดนั้น จัดเป็นวิธีที่ช่วยกำจัดเซลลูไลท์และเห็นผลได้เร็วที่สุด ซึ่งการนวดจะมีทั้งนวดน้ำมัน นวดด้วยครีมสลายเซลลูไลท์ หรือนวดด้วยเครื่องอัลตราโซนิค ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของคุณแม่เองว่าต้องการนวดด้วยวิธีแบบใด

จะเห็นได้ว่าการกำจัดเซลลูไลท์ที่ถือเป็นตัวการลดความมั่นใจในกลุ่มคุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่หลังคลอดนั้น มีวิธีกำจัดที่สามารถทำได้เองโดยไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากแต่อย่างใดเลย อย่าลืมว่าการเป็นคุณแม่ไม่ได้หมายความว่าต้องหยุดสวย ดังนั้นมากำจัดเซลลูไลท์ให้หมดไปพร้อมๆ กันนะคะ